นายจอมจุ้นวุ่ยหารัก
ทำไมนายเจ้าชายต้องให้ฉันปลอมเป็นแฟนกับเขาด้วยล่ะไม่เข้าใจเลย...
ผู้เข้าชมรวม
264
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
นายจอมจุ้นวุ่นหารัก
“นี่เธอเป็นเด็กใหม่โรงเรียนฉันใช่ป่ะ?” เสียงของเด็กผู้ชายคนหนึ่งถามฉันขึ้นหลังจากที่เรานั่งมองหน้ากันอยู่พักใหญ่บนรถไฟ
“อืม คุณจำฉันได้ด้วยเหรอ ดีใจจัง ^_^” ฉันตอบออกไปแบบเว่อร์สุด ๆ ที่คนจำได้
เมื่อประมาณสองเดือนที่แล้วฉันต้องย้ายบ้านกะทันหัน เพราะว่าพ่อกับแม่ของฉันต้องไปทำงานที่ฝรั่งเศส ฉันจึงจำใจต้องย้ายบ้านมาอยู่ที่ขอนแก่นกับป้าจอมโหดของฉัน และผลพลอยได้ที่ตามมาคือ ฉันต้องย้ายโรงเรียนด้วยToT อันที่จริงฉันเสียใจมากที่โดนย้ายที่อยู่ย้ายโรงเรียน จากที่ฉันเรียนที่โรงเรียนนานาชาติแพงหูฉี่ กับต้องมาเรียนที่โรงเรียนรัฐบาลที่แสนจะธรรมดาถ้าเทียบกับโรงเรียนเดิมของฉัน (พ่อกับแม่น่าจะให้ฉันไปอยู่ด้วยที่ฝรั่งเศส) แต่อยู่ไปอยู่มาก็สนุกดี
“เธอมาทำอะไรที่ตัวเมืองเหรอ” เขาถามฉันแบบสนใจสุด ๆ
“มาเรียนพิเศษน่ะ ว่าแต่นายล่ะมาทำอะไร” เขาถามแต่ฉันฉันก็เลยลองถามเขากลับไป
“มาเรียนเหมือนกัน
เธอชื่ออะไรเหรอ” เขาส่งยิ้มกวนประสาทให้ฉัน ชักไม่อยากคุยกับหมอนี่แล้วสิ แต่ก็จำใจต้องคุยเพราะไม่มีเพื่อนคุย ช่างเถอะ
อย่างน้อยก็เป็นเพื่อนที่โรงเรียน
“ชื่อ ทราย แล้วนายล่ะ” ฉันหันไปถามเขาหลังจากชมวิวนอกหน้าต่างได้ซักพัก
“ฉันชื่อ เจ้าชาย” ชื่อก็เหมาะกับหน้าหรอกแต่ไม่เหมาะกับนิสัยที่จุ้นจ้านของนายเอาซะเลย “ฉันอยู่ 4/5 ว่าแต่เธออยู่ห้องไหนเหรอ ถ้าฉันจำไม่ผิดเธออยู่ ห้อง
” เขานั่งคิดตั้งนานฉันเลยต้องเฉลยแล้ว
“4/1 ฉันอยู่ห้อง1” ฉันส่งยิ้มให้เขาแต่เขาก็ยังทำท่านั่งคิดเหมือนเดิม
“ห้องเด็กเรียนเหรอ
เป็นไงอยู่ห้อง1กดดันมากไหม” ตอนนี้เขาขมวดคิ้วเป็นรูปโบว์ สงสัยคิดว่าห้องหนึ่งเป็นพวกเคร่งเครียด
“ไม่นิ ทุกคนออกจะบ้า ๆ บอ ๆ แล้วห้องนายล่ะเป็นไง”
“ห้องฉันเหรอ มีแต่พวกแสบ ๆ เรียนก็ไม่ได้เรื่อง ติดศูนย์ยกห้อง ฮ่า ฮ่า ๆ ” เขาดูมีความสุขมากกับการได้นินทาเพื่อน ๆ ในห้องของตัวเอง เราสองคนคุยกันจนถึงสถานีปลายทาง แล้วแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน
หลังจากอาทิตย์นั้นฉันก็ได้เจอเขาเกือบทุกวันที่โรงเรียนส่วนเสาร์อาทิตย์เราก็จะเจอกันที่โรงเรียนกวดวิชา เพราะว่าพึ่งมารู้เอาทีหลังว่าเรียนอยู่ที่เดียวกันเพราะนั่งรถสองแถวสายเดียวกัน
“นี่ทราย เจ้าชายของเธอมาหา” เสียงเพื่อนในห้องร้องมาบอกฉัน ฉันเองก็แต่งง ใครกันเจ้าชายของฉัน
“จ๊า ^๐^ขอบใจที่บอก” ฉันรีบออกไปห้องห้องเพราะคนที่ได้ชื่อว่าเจ้าชายของฉันรออยู่ข้างนอก “อ้าว เจ้าชายมีอะไรเหรอ” ที่แท้ก็นายเจ้าชายนี่เองที่มาหาฉัน
“ทรายช่วยฉันหน่อยดิ่” เขาทำท่ารุกรี้รุกรนผิดปกติ แถมมองซ้ายมองขวาเหมือนกลัวใครมาเจอ
“จะให้ช่วยอะไรเหรอ” เขาจับมือฉันแล้วลากออกไปนอกอาคารเรียน
เขาลากฉันจนมาถึงหอสมุดของโรงเรียน ซึ่งเป็นที่ประจำของเราสองคน เพราะปกติที่ว่าเจอกันที่โรงเรียนเราก็กันที่หอสมุดนี่แหล่ะ
“ทำไมนายลากฉันมาไกลจัง” เขายังไม่เลิกมองซ้ายมองขวาอีก -_-
“มีคนมาสารภาพกับฉัน” ตอนนี่เขาหูแดงมาก ๆ น่ารักดีปกติจะทำน่ากวนประสาทตลอดเวลา “ฉันจะทำไงดี ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อม” เขาจับไหล่ฉันเขย่าไปมา (เจ็บนะตาบ้า)
“ใครสารภาพอะไรกับนาย” เขายังไม่ยอมปล่อยมือจากไหล่ฉันอีก นายจะรู้รึเปล่าเนี่ยว่ามือนายใหญ่แถมแรงเยอะอีกต่างหาก
“โถ่
ยัยโง่” เขาสบทออกมาเบา ๆ “ก็มีคนมาสารภาพรักกับฉันไง แล้วฉันจะทำไงดีล่ะ” ตอนนี้เขาเปลี่ยนจากจับไหล่มาเป็นทุบหัวฉันเบา ๆ
“เจ็บนะตาบ้า” ฉันลูบหัวตัวเองป้อย ๆ แล้วก็เริ่มพิจารณาเจ้าชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าฉัน เจ้าชายเป็นคนที่ตัวสูงมาก หน้าตาก็ดี แบบว่าตี๋อินเตอร์ หน้าใส ผิวขาวจั๋ว ถ้าไว้ผมยาวคงต้องหล่อ มาก ๆ แน่ แต่ว่าตอนนี้เขาไว้ทรงนักเรียนเหมือนนักเรียนชายทั่วไป ถ้าฉันดูไม่ผิดฉันว่าเขาเป็นลูกครึ่งแน่เลย “นายเป็นลูกครึ่งรึเปล่า” ฉันตัดสินใจถามเขาออกไป เขาก็ได้แต่มองหน้าฉันงง ๆ
“ทรายรู้ได้ไง ฉันไม่เคยบอกใครเลยนะ” ว่าแล้วเชียวต้องเป็นลูกครึ่งแน่ ๆ เขาเป็นลูกครึ่งอะไรกันนะ “ฉันเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น ใครบอกทรายเหรอ ฉันอุตส่าห์เก็บเป็นความลับ โอ๊ย~~โดนรู้จนได้” เขาทำท่าเหมือนว่าจะชักตายอยู่กับที่
“
” ฉันก็ได้แต่มองเขายิ้ม ๆ
“มองอะไรเล่า เรื่องนั้นเอาไง้ก่อนเถอะ จัดการเรื่องของฉันก่อนเซ่
” เขากลับมาเก๊กหน้าจริงจรังอีกครั้ง พร้องกับหน้าฉันเป็นนานสองนาน
“โอเค
นายจะให้ฉันช่วยอะไร” จ้องอยู่ได้ตาบ้าเขินนะ
“เจ้าชายค่ะ คำตอบล่ะ” อยู่ดี ๆ ก็มีเสียงผู้หญิงอีกคนหนึ่งดังขึ้น ก่อนที่เขาจะอ้าปากพูด “ว่าไงค่ะ ^_^” เธอส่งยิ้มให้เจ้าชายที่ตอนนี่ยืนทื่อ สงสัยไม่รู้จะตอบอะไร แต่อยู่ดี ๆ ก็มีมือที่ไหนก็ไม่รู้ มาโอบไหล่ฉันพร้อมกับขโมยหอมแก้มฉัน ฉันก็เลยหันไปมองหน้าหัวขโมยแบบอาฆาตสุด ๆ แต่เขาก็ได้แต่ขยิบตาให้
“ฉันต้องขอโทษเธอด้วยนะ
ฉันเป็นแฟนกับเธอไม่ได้จริง ๆ เพราะฉันมีแฟนแล้ว” เขาหันมาส่งยิ้มหวานให้ฉัน ฉันก็เลยต้องยิ้มตอบแต่ ก็แอบหยิกที่หลังของเขาจนเขาเองถึงกับสะดุ้ง “ขอบคุณนะที่ชอบฉัน แต่ฉันทิ้งทรายไม่ได้หรอก” เขาหันมายิ้มให้ฉันอีกรอบพร้อมกับสายตาที่เหมือนอาฆาตเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรหรอก แค่เจ้าชายเข้าใจความรู้สึกที่ฉันมีต่อเจ้าชายก็พอแล้วค่ะ” เธอส่งยิ้มให้ฉันแล้วก้มหน้าเดินออกไป ฉันสังเกตเห็นเธอเช็ดน้ำตาด้วยล่ะ -๐- อีตาเจ้าชายนี่ก็เหลือเกินทำผู้หญิงร้องไห้
“ทำไมนายพูดแบบนั้น นายยังไม่มีแฟนไม่ใช่เหรอ” ฉันต่อว่าทันทีหลังจากที่เด็กผู้หญิงคนนั้นออกไปจากห้องหนังสือแล้ว แต่เราสองคนก็ยังยืนที่เดิมในห้องหนังสือ
“ทราย ฉันยังไม่พร้อมที่จะมีความรักกับเขา” เราพูดกันแค่นี้แล้วก็ไม่พูดอะไรอีกเลย
หลังจากวันที่นายเจ้าชายปฏิเสธผู้หญิงคนนั้นไป เรื่องที่นายเจ้าชายบอกว่าฉันกับเขาเป็นแฟนกันก็แพร่ไปจนทั่วโรงเรียนแล้ว และดูเหมือนว่าทุกคนจะจ้องพวกเรามากเกินไปเวลาที่เราเดินไปด้วยกัน
“เพราะนายคนเดียวเจ้าชาย ทำให้เรื่องเป็นแบบนี้” ฉันนั่งกอดอกอยู่ฝั่งตรงข้ามเขาที่โรงอาหาร
“ใครจะคิดล่ะว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้” เขาเงยหน้าจากชามก๋วยเตี๋ยวมาพูดแล้วก้มหน้าก้มตากินก๋วยเตี๋ยวต่อไปอย่างเอร็ดอร่อย
“พวกเธอสองคนเล่นเป็นแฟนกันแบบนี้ ใครจะไม่จับตามอง นายเจ้าชายของเธอนะน่ะ เขาทั้งหล่อ เก่ง perfect man ขนาดนั้นคนทั้งโรงเรียนต้องให้ความสนใจอยู่แล้ว” กุ้งเพื่อนสนิทคนใหม่ของฉันพูดขึ้น
“ทำไมต้องเป็นฉันด้วยเล่า~~” ฉันก็ได้แต่โอดครวญเท่านั้นแหล่ะ ทำอย่างอื่นไม่ได้ ก็นายเจ้าชายขอร้องไม่ให้บอกใครว่าเราแกล้งเป็นแฟนกัน เขาว่าเขา perfect ก็เลยจะรอคนที่ถูกใจจะไม่ยอมมีแฟนเด็ดขาด จนกว่าจะเจอคนที่ใช่ (แล้วเมื่อไรจะเจอฟ่ะ)
“ทรายไปกินข้าวกัน ^o^” นั่นไงตัวต้นเหตุที่ทำให้ฉันวุ่นวายมาแล้ว “เจ้าชายหิวแล้วไปกินข้าวเถอะเจ้าหญิง” ดูเขาทำเข้าไม่รู่จักอายคนในห้องฉันบ้างรึไง ฉันก็เลยมองหน้าเขาพร้อมแยกเขี้ยว แต่ถ้าคนอื่นดูอาจจะว่าฉันกำลังยิ้ม “ก็เธอเป็นเจ้าหญิงของฉันนิ่” เขายิ้มหวานให้ฉัน แต่คนในห้องเรียนของฉันต่างหัวเราะกันยกใหญ่
“ฝากไว้ก่อนเหอะ” ฉันพูดเบา ๆ ลอกไรฟันทั้งที่ปากกำลังยิ้ม “ทุกคนฉันไปกินข้าวก่อนนะ ไปพร้อมกันไหม” ฉันหันไปถามเพื่อนในห้อง
“ไม่ล่ะ เธอสองคนไปเหอะ ไม่อยากเป็นก้าง” กุ้งพูดขึ้นแบบว่าเน้นเสียงคำสุดท้าย ทำให้ฉันยิ้มหวานกับความกวนประสาทของเพื่อน
ในที่สุดเขาก็ลากฉันออกจากห้องเรียนไปจนได้ พออกมานอกห้องเรียนก็ยังเจอสายตาของสาว ๆ แฟนคลับนายเจ้าชายตัวดีที่มองแบบอาฆาตมาทางฉัน แต่เจ้าตัวต้นเรื่องก็ยังยิ้มอย่างอารมณ์ดี นายบ้านี่จะรู้ไหมเนี่ยว่าเขากำลังทำให้ฉันเป็น ศัตรูกับผู้หญิงทั้งโรงเรียน ฉันพึ่งมาอยู่ได้ไม่ถึงเทอมเลยน่ะ
“เลิกโกหกคนอื่นเถอะ” อยู่ดี ๆ ฉันก็พูดออกมาในขณะที่เรานั่งอ่านหนังสืออยู่ในหอสมุด “บอกความจริงทุกคนเถอะ”
“ทำไมล่ะ ทรายไม่ชอบเหรอ” ปากว่าแต่ตายังอยู่ที่หนังสือ “ทรายก็มีผู้ชายมาจีบน้อยลง ส่วนเจ้าชายอย่างฉันก็มีสาว ๆ มาสารภาพรักน้อยลง” เขาเงยหน้ามายิ้มให้ฉันแล้วก็ก้อมหน้าอ่านหนังสือต่อ
“ฉันพูดจริง ๆ นะ เราเลิกแกล้งคนอื่นเถอะ ฉันไม่อยากโกหกคนอื่นแล้ว”
“งั้นเราเลิกโกหกคนอื่นก็ได้” เขาหันมายิ้มให้ฉัน พลางปิดหนังสือในมือ
“จริงน่ะ” ฉันก็ได้แต่ยิ้มเขาก็ยิ้มเหมือนกัน “เราไม่ต้องโกหกคนอื่นแล้วจริงน่ะ”
“^_^ใช่ เราไม่ต้องโกหกคนอื่นแล้ว แต่เราต้องมาเป็นแฟนกันจริง ๆ นะ” คำพูดของเจ้าชายทำเอาฉันอึ้งไปจนเขาจับมือฉันไว้ “ฉันชอบเธอนะทราย
เป็นแฟนกับฉันนะ” โอ๊ยหมอนี่ฉันจะเป็นลม “ฉันชอบเธอจริง ๆ เป็นแฟนกับฉันนะ ฉันชอบตั้งแต่เจอเธอครั้งแรกบนรถไฟแล้ว” ฉันก็ยังอึ้งไม่หายก็เลยพยักหน้าแบบงง ๆ ไป ทำให้เขาลุกขึ้นกระโดดตัวลอย
หลังจากนั้นเราสองคนก็ไม่ต้องแกล้งหวานใส่กันต่อหน้าคนอื่น เพราะว่าตอนนี้เราสองคนเป็นแฟนกันจริง ๆ เล่นเอาทุกคนอิจฉาตาร้อนในความรักของสองเรา ถึงเราทั้งสองอาจไม่ได้เป็นคนสุดท้ายของกันและกัน แต่ตอนนี้เรามีความสุขก็พอ.ใจแล้วล่ะค่ะ
(^_^)V
ผลงานอื่นๆ ของ CO-SINE ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ CO-SINE
ความคิดเห็น